• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 2

    “อ้อ ฮูหยินท่องให้ฟังสักหลายประโยคได้หรือไม่”

    ต้วนเหวินชางมีเจตนาเอาใจ อู่เซี่ยวเคอก็ไม่สะดวกบ่ายเบี่ยงอีก ออกตัวว่า “ตอนอื่นๆ จำไม่ค่อยได้นัก มีเพียงหลายประโยคนี้ ‘แรกเริ่มเทามีภรรยาน้อยที่รักใคร่นามจ้าวหยางไถ เพลงระบำเชี่ยวชาญมิมีใครเกิน เทาให้พักแห่งอื่น ซูซื่อล่วงรู้สืบพบ ทุบตีด่าทอ พาเทาเสียใจนัก หยางไถว่าร้ายสันดานซูซื่อ ยุให้ตัดสัมพันธ์ เทาคล้อยโกรธตาม’ ”

    เห็นต้วนเหวินชางไม่เข้าใจ อู่เซี่ยวเคอก็อธิบายว่า “คำว่า ‘เทา’ ก็คือโต้วเทา เจ้าเมืองฉินโจวแห่งแคว้นเฉียนฉิน โต้วเทาก็คือสามีของซูฮุ่ยผู้สร้างภาพเสวียนจี เนื้อความท่อนนี้ในพระราชนิพนธ์ของพระนางอู่เจ๋อเทียนบรรยายถึงความเป็นมาของภาพเสวียนจีที่ซูฮุ่ยสร้างขึ้น โต้วเทาสามีของซูฮุ่ยรักเอ็นดูภรรยาน้อยชื่อจ้าวหยางไถเป็นอันมาก ซูฮุ่ยริษยายิ่งนัก ตอนนั้นซูฮุ่ยเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ด อายุน้อยอารมณ์ร้อน กระทั่งโต้วเทาไปกินตำแหน่งที่เซียงหยาง นางก็ยังปฏิเสธร่วมเดินทาง ผลสุดท้ายโต้วเทาโมโหมาก พาจ้าวหยางไถไปและขาดการติดต่อกับซูฮุ่ยทั้งคำพูดทั้งหนังสือ”

    ต้วนเหวินชางถามอย่างสนใจ “ที่แท้ยังมีเรื่องราวเช่นนี้อีก แล้วซูฮุ่ยทำอย่างไร”

    อู่เซี่ยวเคอหยิบผ้าเช็ดหน้าแพรไหมบนโต๊ะขึ้นแผ่วเบา กล่าวว่า “พระนางอู่เจ๋อเทียนยังเขียนต่อไปอีกว่า ‘ซูซื่อปวดร้าวช้ำใจ ทอผ้าแพรไหม ปักกลอนย้อนอักษร ห้าสีแบ่งแยก สดใสสะดุดตา กว้างยาวแปดชุ่น บทกลอนสองร้อยกว่าบท จำนวนแปดร้อยอักษร ตั้งขวางหน้าหลัง ล้วนเป็นบทคำ กลอนภาพนี้ไร้ด้อย ฝีมือยอดเยี่ยม เกินปัจจุบันล้ำโบราณ ชื่อเรียก ‘ภาพเสวียนจี’ ทว่าคนอ่านมิเข้าใจสิ้น ซูซื่อยิ้มแย้มว่า ตรงย้อนอ้อมเวียน ย่อมสำเร็จเป็นบท มิใช่ดวงใจข้า มิอาจเข้าใจ สั่งคนรับใช้ไป ส่งถึงเซียงหยาง เทาอ่านอักษรแพร ชื่นชมพิสดาร จึงส่งหยางไถสู่กวนจง ตนจัดเตรียมยิ่งใหญ่ ต้อนรับนางซูซื่อกลับยังฮั่นหนาน รักใคร่กลมเกลียว’ ”

    ต้วนเหวินชางพลันเข้าใจกระจ่าง “ที่แท้สตรีใช้ภาพเสวียนจีช่วงชิงความรัก”

    อู่เซี่ยวเคอหัวเราะเย็นชา “หากเป็นเพียงเท่านี้ ภาพเสวียนจีไหนเลยจะได้รับการยกย่องจากพระนางอู่เจ๋อเทียน ทั่วแผ่นดินนี้พระนางเป็นสตรีที่ไม่จำเป็นต้องช่วงชิงความรักจากผู้ใดมากที่สุด”

    ถูกภรรยาตอกกลับเช่นนี้ สีหน้าต้วนเหวินชางจึงเขียวคล้ำ แต่สุดท้ายข่มกลั้นไม่เอ่ยอะไร

    อู่เซี่ยวเคอกล่าวต่ออีกว่า “ซูฮุ่ยตั้งชื่อผ้าเช็ดหน้าแพรไหมกลอนย้อนอักษรของตนเองว่าภาพ ‘เสวียนจี’ ได้ชื่อมาจากดาวเทียนเสวียนกับดาวเทียนจีในกลุ่มดาวกระบวยเหนือทั้งเจ็ด เพราะว่าไม่ว่ากลุ่มดาวกระบวยเหนือทั้งเจ็ดจะหมุนเวียนโคจรอย่างไร จากตำแหน่งดาวเทียนเสวียนถึงดาวเทียนซูจะชี้ไปทางดาวเหนือตลอดเวลา และจากดาวเทียนจีเชื่อมต่อดาวเทียนซูก็จะอยู่บนเส้นระนาบเดียวกันกับกลุ่มดาวกระบวยเหนือเสมอเช่นกัน ดังนั้นความหมายของภาพเสวียนจีก็คือตั้งขวางตัดประสาน หมุนวนไปกลับ ไม่ว่าอ่านแนวใดทิศใดล้วนเป็นบทกลอน ผลงานเลิศล้ำเยี่ยงนี้ กระทั่งองค์จักรพรรดินียังทรงยกย่องว่าเลิศล้ำสุดยอด พระนางไม่เพียงมีพระราชนิพนธ์ด้วยตนเอง ยามทรงว่างจากการว่าราชการยังทุ่มเทค้นคว้า อ่านถอดโคลงกลอนออกมาได้ถึงสองร้อยกว่าบท แน่นอนว่าข้าไม่กล้าเปรียบกับองค์จักรพรรดินีหรอก ถึงวันนี้ก็อ่านได้เกือบสองร้อยบท อันที่จริง ที่บรรยายในบทกลอนแต่ละบทในภาพเสวียนจีล้วนเป็นความรักลึกซึ้งที่ซูฮุ่ยมีต่อสามี เฝ้าหวังว่าสามีจะได้สติหลุดพ้นจากความมัวเมา กลับคืนมารักปรองดองกันเช่นดังเดิม”

    เงียบอยู่ครู่ใหญ่ ต้วนเหวินชางฝืนกล่าวขึ้น “เช่นนี้ดียิ่ง ดียิ่ง”

    บรรยากาศขัดเขินยิ่งนัก

    อู่เซี่ยวเคอสงบจิตใจลง ถามว่า “ท่านยังมีเรื่องอื่นใดอีก”

    “อ้อ ยังมีเรื่องของเฉิงซื่อ!” ต้วนเหวินชางดีใจมากที่เปลี่ยนเรื่องสนทนาได้ และเล่าเรื่องความประหลาดช่วงสองวันนี้ของบุตรชาย สุดท้ายเอ่ยว่า “เด็กคนนี้ยิ่งนานวันยิ่งทำให้ผู้ใหญ่ไม่วางใจ”

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook