• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่าน รหัสลับเสวียนจีถู บทที่ 2

    ขณะที่จื้อซวีเข้ามาบอกนางว่ามีคนมาหานั้น เผยเสวียนจิ้งยังจมอยู่ในห้วงคำนึงเหล่านี้

    เผยเสวียนจิ้งรีบไปที่หน้าประตูอารามจินเซียน เห็นต้วนเฉิงซื่อกำลังยืนสองมือไพล่หลัง วางท่าชมดูป้ายชื่อเหนือประตู วันนี้เขาสวมชุดแบบคนนอกด่านที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เยาว์นครหลวง ท่อนบนเป็นเสื้อคลุมผ้าสักหลาดปักไหมสีสันสดใส ท่อนล่างเป็นกางเกงสีแดงทรงพอดีตัว สวมรองเท้าหุ้มข้อหนังแกะ ศีรษะยังสวมหมวกผ้าสักหลาดใบน้อยสีเลื่อมพรายใบหนึ่ง ยิ่งขับเน้นความเป็นบุรุษรูปงาม ริมฝีปากแดง ฟันขาว

    ข้างถนนด้านหลังต้วนเฉิงซื่อมีรถม้าคลุมผ้าน้ำมันจอดอยู่หนึ่งคัน คนรับใช้สูงวัยคนหนึ่งรออยู่ข้างรถ

    “พี่สาวนักพรต ข้าตรงเวลาสินะ!” พอเห็นเผยเสวียนจิ้ง เขาก็ร่ำร้องอย่างดีใจ

    “เร็วกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก” เวลานี้คือเที่ยงวันของสามวันให้หลังที่พวกเขานัดกันพอดี เดิมเผยเสวียนจิ้งเข้าใจว่าต้วนเฉิงซื่อต้องรอถึงหัวค่ำจึงจะหลบออกจากคฤหาสน์ได้

    ต้วนเฉิงซื่อสืบเท้ามาด้านหน้า เขย่งปลายเท้ากระซิบเสียงเบาแก่เผยเสวียนจิ้ง “สำนักฉงเหวินเพิ่งเลิกเรียน ข้าหลบออกมา สักครู่เวลาอาหารกลางวันผ่านไปแล้วก็ต้องกลับบ้าน”

    “เช่นนั้นข้าพาเจ้าไปกินอะไรสักหน่อยที่ร้านข้างๆ” เผยเสวียนจิ้งรีบพูดต่อ “อย่าปล่อยให้ท้องหิวเป็นอันขาด”

    ต้วนเฉิงซื่อค่อนข้างลังเลอยู่บ้าง เผยเสวียนจิ้งจึงกล่าว “พวกเรากินไปคุยไป” นางเห็นดวงตาของต้วนเฉิงซื่อกลอกมองไปในอารามจินเซียนไม่วางตา รู้ว่าเขาอยากรู้อยากเห็น ทว่าเบื้องหลังอารามจินเซียนซับซ้อนมาก ไม่แน่ว่ายังอันตรายมากอีกด้วย เผยเสวียนจิ้งไม่คิดลากต้วนเฉิงซื่อเข้ามาพัวพัน เด็กคนนี้ได้ยินคำว่า ‘ความลับ’ สองคำนี้ก็ดวงตาเป็นประกาย หากให้เขาได้เห็นสวนดอกไม้ด้านหลังที่มีเรื่องผีปีศาจจริงๆ น่าจะปีนกำแพงเข้าไปดูให้รู้แน่แก่ใจทันที

    ต้วนเฉิงซื่อรู้จักอ่านสายตายิ่งนัก เข้าใจดีว่าเผยเสวียนจิ้งไม่คิดให้เขาเข้าไปในอารามพรต จึงตบท้อง “อา…ข้าหิวมากจริงๆ! พี่สาวนักพรต ท่านพาข้าไปกินน้ำแกงข้นเนื้อแพะได้หรือไม่”

    “ได้สิ” เผยเสวียนจิ้งเรียกจื้อซวีไปด้วยกัน ปกติอยู่ในอารามกินแต่ของจืดชืด วันนี้ก็พาไปกินให้สาแก่ใจเสียเลย

    ทั้งสามเดินเคียงไหล่ผ่านรถม้า คนรับใช้เฒ่าผู้นั้นนิ่งเงียบจ้องมองพวกเขาไม่วางตา เผยเสวียนจิ้งกระซิบถามต้วนเฉิงซื่อ “คนรับใช้ผู้นี้เป็นคนในบ้านเจ้าหรือ ต้องระวังหรือไม่”

    “ไม่เป็นไร ลุงล่ายเป็นคนเก่าแก่ในคฤหาสน์ท่านตา ฟังแต่คำสั่งท่านแม่ เรื่องของข้าต่อให้ท่านแม่รู้ก็ไม่เป็นไร ท่านแม่รักข้าที่สุด อะไรก็เชื่อข้า ปิดบังบิดาข้าคนเดียวก็พอแล้ว” ต้วนเฉิงซื่อหยุดชั่วครู่แล้วสำทับอีก “ลุงล่ายไม่ไปฟ้องบิดาข้าหรอก”

    น้ำเสียงของเขาแฝงความไร้เดียงสา เผยความปวดร้าวลึกๆ ที่ไม่สอดคล้องกับวัย

    กับความสัมพันธ์ครอบครัวที่ซับซ้อนของบรรดาขุนนางเหล่านี้ เผยเสวียนจิ้งไม่ต้องถามก็คาดเดาออกหลายส่วน นางเอ็นดูหนุ่มน้อยที่ฉลาดเฉลียวเกินวัยผู้นี้อยู่บ้างจึงเปลี่ยนเรื่องสนทนา “ถึงแล้ว ร้านนี้ดูไปแล้วสกปรกอยู่บ้าง ทว่าน้ำแกงข้นเนื้อแพะเป็นสุดยอดอันดับหนึ่งของฉางอัน คุณชายต้วน เจ้ากลัวกินแล้วท้องเสียหรือไม่”

    พอดีน้ำแกงข้นเนื้อชามหนึ่งเสร็จยกขึ้นโต๊ะ กลิ่นหอมฟุ้งของเนื้อแพะ ต้นหอมและไขมันปะทะหน้า ต้วนเฉิงซื่อสูดจมูกอย่างเอาเป็นเอาตายพูดว่า “ไม่กลัว!”

    จื้อซวีกับต้วนเฉิงซื่อต่างประคองน้ำแกงข้นเนื้อแพะคนละหนึ่งชาม กินอย่างมูมมาม เผยเสวียนจิ้งไม่แตะต้องอาหารคาว เพียงดูพวกเขากินอยู่ด้านข้าง ต้วนเฉิงซื่อกินจนเหงื่อท่วมศีรษะ แต่ยังไม่ลืมล้วงกระดาษที่พับเป็นสี่เหลี่ยมเรียบร้อยแผ่นหนึ่งออกจากในแขนเสื้อ ยิ้มให้เผยเสวียนจิ้ง ยัดเข้าในมือนาง

    แผนผังห้องหนังสือของอู่หยวนเหิงนั่นเอง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook