• Connect with us

    Enter Books

    ทดลองอ่าน

    ทดลองอ่านนิยายสยบฟ้า พิชิตปฐพี เล่ม 15 ตอนที่ 3

    ในฐานะศิษย์ชั้นสองของสถานศึกษาและศิษย์โดยตรงของจอมปราชญ์ แม้จะถูกผู้คนดูออกว่าเข้าสู่วิถีแห่งมาร ก็คงไม่ถึงกับต้องม้วยมอด แต่หากสิ่งที่ดำรงตัวอยู่เหนือผู้คนและโลกหล้ารู้เล่า

    หนิงเชวียจ้องมองมือทั้งสองข้างเงียบๆ ใบหน้าแม้สงบนิ่ง แต่ในใจกลับรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงอยู่บ้าง

    ซังซังมิทราบว่าออกจากกระท่อมเข้ามาปูที่นอนหลับอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อใด หนิงเชวียลุกขึ้นยืนมองใบหน้าค่อนข้างคล้ำของนางอยู่นาน ก่อนก้มลงเหน็บผ้าห่มให้ แล้วค่อยเดินลึกเข้าไปในถ้ำ

    หลายวันมานี้จิตใจมันหมกมุ่นอยู่กับการแก้ปัญหา มิได้ให้ความสนใจกับตัวถ้ำซึ่งบัดนี้ได้กลายมาเป็นบ้านพักชั่วคราวของมันไปแล้ว ตอนนี้ความคิดมันวุ่นวายสับสน อยากโยนเรื่องทั้งหมดทิ้งไปจากสมอง จึงเกิดอยากเดินสำรวจขึ้นมา

    ถ้ำแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่ ความสูงตรงปากถ้ำอยู่ที่ประมาณสองช่วงตัวคน ภายในมีที่ว่างให้เดินประมาณสิบกว่าก้าว ผนังไม่เรียบลื่น แต่ก็ไม่เป็นตะปุ่มตะป่ำ ดูธรรมดาไม่มีอันใดพิเศษ พอเดินลึกเข้าไปยังมีถ้ำเล็กๆ อีกสองถ้ำแยกย้ายกันอยู่ทางด้านซ้ายและขวา

    ถ้ำทั้งสองนี้แคบเล็ก ระดับความสูงเลยศีรษะเล็กน้อย เดินแค่สิบกว่าก้าวก็ถึงก้น ทั้งหมดล้วนเป็นหินฮวากังเหยียนที่มีความแข็งแกร่งเป็นเลิศ หนิงเชวียยกตะเกียงขึ้นส่องไปบนผนังถ้ำ และแล้วดวงตามันก็เป็นประกาย!

    บนผนังถ้ำมีรอยกรีดตัดมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งหมดมิได้เกิดขึ้นจากธรรมชาติ แต่เกิดจากของมีคม!

    ลึกเข้าไปในเทือกเขาเทียนชี่ ภายในวิหารของสำนักพรรคมารที่ถูกทิ้งร้าง มันเคยเห็นรอยกระบี่ที่อาจารย์อาทิ้งไว้บนผนังห้อง และก็เพราะรอยกระบี่เหล่านั้น มันจึงสามารถเข้าใจในเคล็ดวิชาลมปราณสุดไพศาล รับช่วงบาตรและจีวรของอาจารย์อา เอาชนะเหลียนเซิงต้าซือได้

    ตอนนั้นอาจารย์อาถูกขังอยู่ในถ้ำนานสามปี ไม่มีสหายร่วมสำนักมาเยี่ยมเยียนให้คลายเหงา ไม่มีซังซังคอยปรนนิบัติรับใช้ น่ากลัวคงเบื่อหน่ายกลัดกลุ้มแทบตาย หรือว่าถ้ำทั้งสองนี้เป็นอาจารย์อาใช้กระบี่ขุดเจาะขึ้นมา หากเป็นดั่งที่คิด เช่นนั้นรอยกระบี่เหล่านี้ใช่แฝงกลิ่นอายหรือความหมายลึกซึ้งเฉกเช่นเดียวกับรอยกระบี่ในสำนักพรรคมารหรือไม่

    หนิงเชวียหยิบไม้มาท่อนหนึ่ง จากนั้นแขวนตะเกียงเข้ากับปลายไม้ ก่อนอาศัยแสงตะเกียงอันอ่อนสลัวเริ่มสังเกตรอยกรีดตัดที่เหมือนระลอกคลื่นบนทะเลสาบเหล่านั้นอย่างจริงจัง ไม่ว่ามันจะคาดเดาได้ถูกต้องหรือไม่ สมควรตรวจดูให้ละเอียดสักครา

    ทว่าใช้เวลาอยู่นานมันก็ยังไม่สัมผัสถูกกลิ่นอายใดๆ ทั้งยังไม่พบเห็นรูปแบบอะไรจากรอยกรีดตัดเหล่านี้เลย มันไม่ยอมแพ้ ยังคงยื่นมือลูบคลำไปทั่วผนังถ้ำอย่างช้าๆ รับรู้ถึงความหยาบกระด้างและความเว้านูนที่ถ่ายทอดมาจากฝ่ามือ

    มันลูบจากปากถ้ำไปถึงก้นถ้ำ จากพื้นด้านล่างไปจนถึงเพดานเหนือศีรษะ ไม่ปล่อยให้พื้นที่ใดเล็ดลอดไปได้ การลูบคลำครั้งนี้ใช้เวลาทั้งคืนจนฝ่ามือแดงพอง จนสีสันของราตรีนอกถ้ำค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยแสงอรุณ แต่มันก็ยังไม่พบหรือสัมผัสรับรู้อะไรทั้งสิ้น

    เพราะต้องขบคิดใคร่ครวญอย่างหนัก หมกมุ่นอ่านตำราจนแทบไม่กินไม่นอน และยังต้องฝืนทำใจไม่ให้คิดถึงอิสรภาพที่ถูกริดรอน ตอนนี้มันจึงรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังผ่านราตรีอันยาวนานไปอย่างไร้ดอกไร้ผล ความรู้สึกด้านลบจึงอัดแน่นอยู่เต็มอก สภาพจิตใจตึงเครียดจนถึงที่สุด

    ซังซังยกน้ำสะอาดเดินเข้ามา เห็นผมเผ้าของมันยามนี้ยุ่งสยาย สีหน้าซูบเซียวหม่นหมอง บนตักมีตำราเปิดกางไว้สองเล่ม ปากท่องบ่นงึมงำ เสียงที่ทั้งเบาทั้งแหบพร่าทำให้ฟังได้ไม่ชัดว่ามันพูดอะไร ก็มองอย่างเป็นห่วง

    Comments

    comments

    Continue Reading

    More in ทดลองอ่าน

    นิยายยอดนิยม

    Facebook